วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2559

ชีสมังสวิรัติ


ว่าจะเขียนแนะนำนานแล้ว ลืมทุกที ขอแนะนำ ชีสแผ่นแปรรูปยี่ห้อ Bon appetit ค่ะ เป็นหนึ่งในชีสไม่กี่ยี่ห้อในเมืองไทยที่ฉลากระบุชัดเจนว่าใช้ เรนเน็ต (Rennet) ที่ไม่ได้ทำจากสัตว์ หน้าซองจะเขียนไว้เลยว่า 100% Vegetarian และตรงข้างห่อบริเวณส่วนผสมก็ระบุด้วยค่ะว่าเป็น Vegetarian Rennet เห็นมีขายที่ Tops ทุกสาขา และ Tesco บางแห่ง คราวหน้าได้ไปลองเดินซูเปอร์ ลองมองหาดูนะคะ

เราไม่ได้บอกว่าชีสอื่นๆในตลาดไม่มังสวิรัตินะคะ แต่ส่วนผสมที่ระบุไว้จะมักจะเขียนแค่ Rennet อย่างเดียว ไม่ได้ระบุว่ามาจากสัตว์ จากพืช หรือจากจุลินทรีย์ ดังนั้น ตราบใดที่ยังมีตัวเลือกที่ซื้อได้ง่ายๆ เราก็อยากอุดหนุนบริษัทที่เห็นความสำคัญของคนกินมังสวิรัติมากกว่า

ไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรนะคะ แต่อยากให้มีคนซื้อเยอะๆ กลัวเค้าเจ๊ง แล้วเราจะไม่มีกินค่ะ


สำหรับชีสเจ (วีแกน) ที่ไม่ได้ทำจากนม ที่เรารู้จักคือยี่ห้อ Daiya ค่ะ น่าเสียดายที่ไม่เคยเห็นยี่ห้อนี้ในเมืองไทย สมัยโน้นเคยมีชีสเจแบบก้อนขายอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตสยามพารากอนนะคะ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่เจอแล้ว

ถ้าอยู่เชียงใหม่ เห็นว่าที่นั่นมีชีสเจขายนะคะ อย่างเช่น ร้าน Wevego ยังมีเว็บ Chiangmai Bread อีกที่ ลองสอบถามดู
https://www.facebook.com/wevego/
https://www.facebook.com/cmbread/

[สิงคโปร์] ร้านอาหารตามแหล่งท่องเที่ยว

 เล่าถึงร้านอาหารที่เจอระหว่างไปเที่ยวตามที่ต่างๆค่ะ สำหรัรบคนที่เน้นประหยัดเวลา กินอาหารควบเที่ยวในที่เดียวกัน


- ตึก Suntec City -

ตอนไปขึ้น Duck Tours ที่ตึก Suntec City ได้แวะดูน้ำพุแห่งความมั่งคั่งที่ชั้นล่างของตึกด้วย แอดมินเจอร้าน Perfect Vegetarian อยู่ในฟู้ดคอร์ทบริเวณ Fountain Gallery (ที่เป็นกระจกล้อมรอบตัวน้ำพุน่ะค่ะ) ไม่ได้ลองกินแต่ถ่ายรูปมาฝากค่ะ ที่ฟู้ดคอร์ทนี้ยังมีร้านเต้าหู้เจทั้งร้านด้วย ซึ่งขายสารพัดทั้งเต้าฮวย เต้าหู้ทอด น้ำเต้าหู้ และของที่กินกับน้ำเต้าหู้ อย่างเช่น ปาท่องโก๋สิงคโปร์ กะหรี่ปั๊บ ซาละเปา ขนมผักกาด ฯลฯ ราคาทั้งสองร้านออกจะสูงสำหรับซุ้มอาหารตักๆ แต่ถือว่ามาตรฐานตามประสาฟู้ดคอร์ทห้างหรู





- Chinatown -


ร้าน Yi Xin (อี้ซิน) เป็นร้านอาหารห้องแถวบน Temple Street หน้าตาคล้ายร้านตาม hawker center ต่างๆ แต่มีร้านของตัวเองเป็นสัดเป็นส่วน ร้านนี้อาหารหลากหลายดีค่ะ มีทั้งแบบอาหารตักๆราดข้าว และแบบทำใหม่ตามสั่ง ราคาก็มีตั้งแต่ถูกๆ เช่น ข้าวต้มเครื่องราคา 2 เหรียญ ไปจนถึงอาหารที่ใช้เนื้อเทียมราคาสูงหน่อย 7-8 เหรียญ วันที่ไปกินลองสั่งก๋วยเตี๋ยวกระดูกหมูเจ ราคา 4 เหรียญ ตัวกระดูกหมูทำได้ไม่เลวเลย แต่คิดว่าน่าจะมีเมนูอื่นอร่อยกว่านี้ ไว้คราวหน้าจะไปลองอย่างอื่นบ้าง



- วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) -
ใครไปไหว้พระแล้วท้องร้องกระทันหัน ลองลงไปดูชั้นใต้ดินนะคะ ที่นั่นมีอาหารตักๆราคาจานละ 4 เหรียญ สามารถเลือกได้ว่าจะราดข้าวหรือราดหมี่ (bee hoon) ซาลาเปาก็มีค่ะ ใส่รวมๆกันในจานได้ รสชาติไม่มีอะไรพิเศษ แอดมินกินแล้วลืมถ่ายรูปมาด้วยแหละ

- เกาะเซ็นโตซ่า -
ร้านอาหารเยอะแยะค่ะ และขอบอกว่าไม่ต่างจากร้านทั่วไปในสิงคโปร์ คือแต่ละร้านมักจะมีเมนูมังสวิรัติด้วย รับรองว่าหาไม่ยาก ไม่ต้องกลัวอด แม้แต่ร้านคาเฟ่ที่แอดมินแวบไปกินขนม ยังมีเมนูแซนด์วิชมังสวิรัติเขียนไว้ชัดเจนตั้ง 4 เมนูแน่ะ แต่อาจจะต้องบอกเขาหน่อยถ้ากินเจแท้ หอมกระเทียมยังมีอยู่

---

หมดแล้วค่ะของฝากจากสิงคโปร์คราวนี้ ขออภัยที่มีไม่ค่อยมีข้อมูลร้านอาหารทั่วไปที่กินง่ายๆนะคะ ความที่เวลาน้อย แอดมินเล็งแต่ร้านแปลกๆน่ะค่ะ แต่อยากจะบอกว่าถ้าใครอยากลองรสชาติท้องถิ่นที่คนสิงคโปร์ส่วนใหญ่กินกันละ ก็ ต้องไปพวกศูนย์อาหารท้องถิ่น ที่เรียกว่า hawker center และร้านอาหารห้องแถวไม่ติดแอร์ ที่คนสิงคโปร์เรียกว่า Eating House หลายปีก่อนมีช่วงหนึ่งแอดมินต้องไปสิงคโปร์ค่อนข้างบ่อย ก็ฝากท้องกับร้านบ้านๆราคาย่อมเยาพวกนี้แหละ

สำหรับผู้ที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำเว็บเหล่านี้ค่ะ
http://www.hungryangmo.com/
https://mrandmrsvegan.wordpress.com/site-index/
https://veganash.wordpress.com/

[สิงคโปร์] รีวิว 4 ร้านมังสวิรัติในสิงคโปร์

สิงคโปร์เป็นประเทศที่หากิน เจ/มัง ง่ายมาก เพราะประเทศนี้มีทั้งคนจีน ที่มักจะกินเจในวันพระจีน และคนอินเดียบางกลุ่มที่เป็นมังสวิรัติ ฟู้ดคอร์ทใหญ่ๆทุกแห่งเลยจะมีซุ้มอาหารเจหรือมังสวิรัติอยู่หนึ่งซุ้มเสมอ ยิ่งถ้าไปตามแหล่งท่องเที่ยวด้วยแล้ว รับรองว่าไม่อดค่ะ มีให้เลือกทั้งไทย จีน ฝรั่ง มาเลย์ อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี สหประชาชาติกันไปเลย

ดูกันง่ายๆ ในเว็บ Happycow.net ลงลิสท์ร้านอาหารมังสวิรัติในประเทศเล็กๆอย่างสิงคโปร์ไว้ถึง 441 ร้าน (ณ วันที่ 23 ก.พ. 16)  ในขณะที่กรุงเทพฯซึ่งใหญ่กว่า 2 เท่า มีเพียง 178 ร้าน 

ร้านอาหารเจ/มัง ในสิงคโปร์ มีตั้งแต่ระดับหรูเริ่ดไปถึงร้านเจ/มังแบบบ้านๆ แม้แต่ร้านอาหารธรรมดาก็มักจะมีเมนูมังสวิรัติสักอย่างสองอย่างเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญ คนที่นี่ไม่ได้เห็นวัฒนธรรมการกินเจเป็นเรื่องพิลึกพิสดารเหมือนหลายๆประเทศ ในโลก ร้านอาหารเจ/มัง จึงอยู่ได้ค่อนข้างยั่งยืน

งวดนี้ไปแค่สองวัน เลยกินได้ไม่เยอะ เอาข้อมูลมาฝาก 4 ร้านค่ะ เป็นร้านมังสวิรัติล้วน ไม่มีเนื้อสัตว์และอาหารทะเล

Joie by Dozo

รายละเอียด http://www.happycow.net/reviews/joie-restaurant-central-singapore-54966
ประเภทอาหาร : มังสวิรัติ (สั่งเจ และวีแกนได้), ฟิวชั่น ฝรั่งเศส/ญี่ปุ่น
สถานี :  Somerset
เว็บไซต์ : http://www.joierestaurant.com.sg


รูปจากเว็บไซต์ของร้าน

เนื่องจากประทับใจที่สุดในทริปเลยจะแนะนำยาวหน่อยนะคะ Joie (อ่านว่า จอย) เป็นร้านอาหารแบบคอร์สมังสวิรัติล้วนที่ครีเอทได้สวยงามและรสชาติยอดเยี่ยม ไม่แพ้กัน ขอแนะนำให้ไปกินช่วงเที่ยงนะคะ เพราะมี 6 คอร์ส ราคา SGD38.8++ (รวมออกมาเกือบ 50 นั่นแหละ) ส่วนช่วงเย็น 7 คอร์ส มี cold dish เพิ่มขึ้นมา ต่างกันคอร์สเดียวแต่ราคาตั้ง 68.8++

อาหารที่ Joie เป็นมังสวิรัติทั้งหมด แต่บางชนิดจะมีหัวหอม หรือกระเทียม หรือนม หรือไข่ อาหารแต่ละคอร์สจะมีตัวเลือกให้ประมาณ 4-5 อย่าง จะมีเมนูหนึ่งที่เป็นเจแท้อยู่ ลองถามพนักงานได้  อ้อ อาหารที่นี่ไม่มีเนื้อเทียมนะคะ วัตถุดิบธรรมชาติหมด

เมนู
http://www.joierestaurant.com.sg/menu/

ตัวร้านตั้งอยู่ที่ชั้นบนสุด (12) ของตึกข้างหน้าหน้า Orchard Central Mall เลยได้อานิสงส์วิวสวนสวยๆบนชั้นดาดฟ้าและทัศนียภาพเมืองสิงคโปร์ไปด้วย การตกแต่งภายในเน้นสีทองกับเทาเหมือนร้านอาหารโมเดิร์นหรูๆสักแห่งค่ะ บรรยากาศดี นั่งแล้วไม่อึดอัด แต่ละโต๊ะแยกห่างค่อนข้างเป็นสัดส่วน ทางร้านมีห้องส่วนตัวบริการฟรีด้วยสำหรับแขกที่มาเป็นกรุ๊ป เห็นวิวในเว็บแล้วสวยมาก



ทีนี้ก็จะไล่อาหารแต่ละคอร์สให้ดูค่ะ เนื่องจากความสามารถในการถ่ายภาพของเราค่อนข้างอนาถา ถ้าอยากเห็นภาพสวยๆ นี่เป็นลิงก์ gallery ของทางร้านค่ะ http://www.joierestaurant.com.sg/gallery/nggallery/page/1


0. Welcome Drink



1. Starter

แล้วแต่เชฟจะจัดให้ วันที่เราไปได้เป็น
- เจลราสเบอร์รีนุ่มๆบนแครกเกอร์พิสตาชิโอ พนักงานบอกว่าตัวก้อนราสเบอร์รีกินเข้าไปแล้วจะแตกในปาก อย่ากัดตอนอ้าปากอาจจะกลายเป็นแดร็กคิวล่าโดยไม่รู้ตัว
- "แซลมอน" ซาชิมิ ทำจากแครอทดอง ออกจืดๆลื่นๆ เราไม่เคยกินแซลมอนดิบของจริงเลยเปรียบเทียบไม่ได้ แต่ก็โอเคนะคะ
- ข้าวเกรียบสาหร่ายกับซอสวาซาบิมายองเนส ข้าวเกรียบกรอบดีแต่ธรรมดา ส่วนตัวซอสเสริมรสชาติได้มาก



2. Side Dish

เมนู : 1. ชีสแมนเชโกหน้าผัก, 2. เห็ดแชมปิญองอบชีส, 3. เค้กเห็ดหอมกับเจลโรสแมรี่, 4. เทมปุระผักผลไม้

เราเลือก :
- 2. เห็ดอบชีส ปลื้มมากมายสำหรับจานนี้ เสิร์ฟมาในถาดเอสคาโก้ค่ะ จงใจทำเลียนแบบแน่ๆเลย รสชาติเพอร์เฟคสำหรับเรา ตัวเห็ดในหลุมยังฉ่ำและสุกพอดี ชีสก็อร่อยน้ำตาไหล มีขนมปังกรอบแถมให้กินกับซอสมันฝรั่ง


- 3. เค้กเห็ดหอม ถ้าคนชินรสจัดอาจจะว่าจืดไป แต่เราชอบนะคะ นุ่มนวลละเมียดละไมดี


3. Cold Dish

เมนู : ตัวนี้เราไม่ได้กินนะคะ เพราะไปตอนเที่ยง แต่เอารูปเมนูหอคอยซุคคินีจากในเว็บของร้านมาให้ดู


4. Soup

เมนู : 1. ซุปเห็ดและทรัฟเฟิล, 2. ซุปฟักทอง, 3. คอนซอมเม่กะหล่ำกับแพร์, 4. ซุปมะเขือเทศใสกับเกี๊ยวผักโขม

เราเลือก:
- 1. ซุปเห็ด เข้าใจว่าเป็นพวกเห็ดผึ้งหรือเห็ดตับเต่านี่แหละทำเป็นซุป แล้วเหยาะน้ำมันทรัฟเฟิล มีทรัฟเฟิลดำก้อนเล็กให้หนึ่งก้อน ขูดจนเกลี้ยงค่ะจานนี้
- 4. ซุปมะเขือเทศใส ใส่ถั่วลูกไก่ด้วย ค่อนข้างธรรมดานะคะจานนี้ (แต่ฝาครอบชามน่ารัก) เกี๊ยวผักโขมใช้ได้ค่ะ

เราถ่ายรูปแล้วดูไม่น่ากินเลยค่ะ ขอเอาภาพจากทางร้านมาให้ดูแทน


5. Main Dish

เมนู : 1. โพเลนต้า (ข้าวโพดบด) นาบไฟย่าง เต้าหู้ย่าง กินกับซอสพริก, 2. ข้าวป่าผัด เคียงด้วยเทอร์รีนมะเขือม่วง, 3. ริซอตโตทรัฟเฟิล, 4. เห็ดหัวลิงทอดเครื่องเทศ, 5. ราวิโอลีฟักทองกับผักโขม, 6. วีแกนสามกษัตริย์ (ควินัว หน่อไม้ฝรั่ง ฟักทอง), 7. สเต็กเห็ดไป๋หลิง

เราเลือก :
- 5. ราวิโอลีฟักทองกับผักโขม ในซอสครีมเบซิล แต่งหน้าด้วยโฟมทรัฟเฟิล อร่อยค่ะ รสชาติพอดิบพอดี


- 6. จานนี้จัดวางอลังการมาก สเต็กเห็ดไป๋หลิงก้อนยักษ์ เสิร์ฟบนหินร้อนฉ่า ตัวเห็ดนุ่มฉ่ำเคี้ยวหนึบๆ กินเฉยๆรสจะจืดไป ต้องจิ้มซอสมัสตาร์ดที่ให้มาด้วย


6. Dessert

เมนู : เค้กชอคโกแล็ตกับไอศครีมวานิลลา, เครมบูเล่ทรัฟเฟิล, ชีสเค้ก, ลูกแพร์แช่ไวน์กับไอศครีม, พุดดิ้งโยเกิร์ต

เราเลือกเมนู 1 กับ 2 อร่อยเกินมาตรฐานนิดหน่อยทั้งคู่ ถูกใจตรงที่เค้กไม่หวานเกินไป มีลูกกุซเบอร์รี่แถมมาให้กินตัดหวานด้วย

เค้กชอคโกแล็ตถ่ายรูปไม่ทันค่ะ จ้วงไปแล้ว

7. Drink
เมนูมีหลากหลายทั้งร้อนและเย็น เป็นพวกชาและน้ำผลไม้ เราเลือก Mocktail of Love หวานอมเปรี้ยวสดชื่น กับชากระเจี๊ยบร้อน กินคู่กับเค้กช็อคโกแล็ตแล้วเวิร์คสุดๆ



บริการยอดเยี่ยมค่ะ พนักงานที่ประจำโต๊ะเราสุภาพน่ารัก อธิบายแต่ละคอร์สอย่างตั้งใจและเป็นกันเอง ประทับใจ

ข้อเสียอย่างใหญ่หลวงของที่นี่คือ ห้องน้ำ ซึ่งไม่ใช่ของทางร้าน แต่อยู่ข้างนอก เป็นของตัวอาคาร มีจำนวนหนึ่งห้องถ้วน ไม่รู้เราแจ็คพ็อตซวยเองหรือเปล่านะคะ แต่เข้าไปแล้วผงะ สภาพเกินบรรยาย ขอแนะนำให้ลงมาเข้าในห้างหรือสถานีรถไฟยังจะดีกว่า



Teng Bespoke Vegetarian Dining

รายละเอียด http://www.happycow.net/reviews/teng-bespoke-vegetarian-dining-central-singapore-42741
ประเภทอาหาร : มังสวิรัติ, ญี่ปุ่น
สถานี : Bras Basah
เว็บไซต์ : http://tengbespoke.com/


รูปจากเว็บทางร้าน

เป็นร้านที่อยู่ใน SunShine Plaza ห้างหน้าตาเหงาๆที่เน้นขายพวกคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ อาศัยการเดินหานิดหน่อยค่ะสำหรับร้านนี้ แต่ไม่ยาก เราไม่ได้เปิดเน็ตไป แค่เซฟ google maps แบบ offline ก็ยังหาเจอ  เข้าไปในห้างแล้วเดินลึกเข้าไปเดี๋ยวก็เห็นเองค่ะ เยื้องๆกะร้านเป็นร้านขายโมเดลกันดั้ม MRT Bras Basah ใกล้สุด (400 เมตร)

ถ้าจะไปกินวันเสาร์อาทิตย์หรือวันพระจีน เราแนะนำให้จอง หรือเล็งช่วงที่ไม่ใช่พีคนะคะ เราไปถึง 6 โมง ในร้านโต๊ะเต็มแล้วค่ะ ทางร้านต้องจัดที่ให้เรานั่งหน้าร้านด้วยซ้ำ เมนูมีหลากหลายไม่แตกต่างจากร้านญี่ปุ่นทั่วไป แต่ใช้เนื้อเทียมแทน

เมนูของร้านหนาเป็นเล่ม เราลองถ่ายมาเป็นตัวอย่างสองสามหน้า



อาหารที่เราสั่งมาก็มี
- อาโวคาโดมากิ เฉยๆ ที่ญี่ปุ่นอร่อยกว่า (แหงละ)


- ลูกชิ้นกุ้ง ไม่ชอบ รสสัมผัสหยุ่นๆเหมือนกินยาง คิดว่าของเจที่สิงคโปร์เหมือนจะแพ้ไต้หวันกับฮ่องกงค่ะ
-  คาคิอุด้ง น้ำอร่อย แต่เส้นอุด้งไม่ดีเท่าที่ร้านอุด้งสด (เจ) ที่ไต้หวัน


โดยรวมแล้วรสชาติกลางๆ หรือว่าเราสั่งผิดเมนูก็ไม่รู้นะคะ ส่วนตัวคิดว่าทั้งความหลากหลายของเมนูและรสชาติเนื้อเทียมยังสู้ร้าน Chijuya สมัยรุ่งเรืองที่ตึก fifty-five ไม่ได้ (ชิจูย่าที่ ถ.ทรงวาด ตอนนี้ไม่เหมือนสมัยอยู่ทองหล่อค่ะ) แต่เนื่องจากอาหารญี่ปุ่นเจเป็นแรร์ไอเท็ม ได้มากินก็เลยคิดว่าคุ้ม

ฝั่งตรงข้ามที่ตึก Fortune Center มีร้านญี่ปุ่นเจที่คล้ายๆกันชื่อ Herbivore Zen ข้อมูลบอกว่าเปิดมาก่อน แล้ว Teng Bespoke เลียนแบบตาม โดยจัดเมนูให้ต่างออกไป



Veganburg

รายละเอียด http://www.happycow.net/reviews/veganburg-jalan-eunos-east-singapore-23779
ประเภทอาหาร : วีแกน, เบอร์เกอร์
สถานี : Eunos ทางออก C
เว็บไซต์ : http://veganburg.com/

เป็นร้านแฮมเบอร์เกอร์มังสวิรัติทั้งร้าน ซึ่งหาได้ยากยิ่ง เลยคิดว่าต้องไปกินให้ได้ ร้านอยู่บนเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะไปสนามบินพอดี เลยแวะกินก่อนกลับ ออก exit C แล้วเลี้ยวซ้ายเดินผ่านศูนย์อาหารไปเรื่อยๆ ถึงสี่แยกเลี้ยวซ้ายอีก ร้านอยู่ฝั่งตรงข้าม ติดกับร้านขายนก ขาวๆที่เห็นนั่นคือตัวร้านค่ะ


หน้าร้านและในร้านมีคัตเอาท์ Sir Paul McCartney ตั้งอยู่ ร้านแต่งแนวอินดี้ๆ ลูกค้าเต็มไปด้วยเด็กวัยรุ่นอย่างน่าแปลกใจ

รูปที่เราถ่ายออกมา แสงเลวร้ายมาก เลยเอารูปในเมนูที่เว็บมาให้ดูแทนนะคะ




ที่เราได้กินคือ Creamy Mushroom ตัวเห็ดอร่อยมาก เนื้อ patty ทำมาจากถั่วเหลือง ปรุงรสชาติได้กำลังดี คนที่ไปด้วยชอบมาก แต่เรารู้สึกว่าซอสมันเลี่ยนไปนิดนึง  ส่วนHawaiian Teriyaki สับประรดสดดีค่ะ patty เป็นเนื้อเทียมที่เกือบจะตรงใจแต่ยังขาดไปนิดนึง ซอสเทริยากิค่อนข้างโอเคทีเดียว

น่าเสียดายว่าอิ่มแล้วเลยไม่ได้ลองพวกเครื่องเคียงต่างๆ อย่างฟาลาเฟลผักโขมกับฮ็อตด็อก  น้ำเราสั่งเป็น Organic Cola ที่โฆษณาว่าใช้เมล็ดโคล่าแท้ กินแล้วได้กลิ่นรสเหมือนลูกอมโคล่าค่ะ แปลกดี





LingZhi Vegetarian by Tung Lok สาขา Novena

รายละเอียด http://www.happycow.net/reviews/ling-zhi-vegetarian-restaurant-novena-square-north-singapore-211
ประเภทอาหาร : มังสวิรัติ, จีน
สถานี : Novena
เว็บไซต์ : http://www.lingzhivegetarian.com/home.php

ถือเป็นร้านที่มีชื่อเสียงด้านอาหารเจในสิงคโปร์ค่ะ ทุกลิสท์ best vegetarian restaurants in Singapore ต้องมีร้านนี้ติดโผทุกครั้ง เราเลยจำเป็นต้องไปลองซะหน่อย



ร้านนี้มีสองสาขา คือ สาขาเล็กที่ Liat Tower ถนน Orchard กับ สาขาใหญ่ที่ ห้าง Velocity ใน Novena Square เราไปสาขาใหญ่ค่ะ เพราะได้ยินว่าช่วงเที่ยงมีบุฟเฟ่ต์ steamboat ที่นิยมกันด้วย พอไปถึงพบว่าเนื่องจากอยู่ในช่วงตรุษจีน ทางร้านเลยโก่งราคาขึ้นไปอีก 10 กว่าดอลลาร์ เราดูไลน์บุฟเฟ่ต์แล้ว เราว่า mk บ้านเราดีกว่า ยกเว้นว่ามีเห็ดหน้าตาแปลกๆ มีน้ำซุปให้เลือก แล้วก็มีขนมจีบซาลาเปาแถมนิดหน่อย เราเลยเปลี่ยนใจสั่ง a la carte แทน



ผลปรากฏว่าผิดหวังอีก เราสั่งขนมจีบกับฮะเก๋ามากิน หน้าตายังงี้อะค่ะ 3 เหรียญกว่า คำละ 25 บาทเลย รสชาติก็ไม่ค่อยเวิร์ค ไส้ออกเละๆ ฮ่องกงยังกินขาดอยู่หลายขุม



จากนั้นเลยลองสะเต๊ะเจ เพราะอยากรู้ว่ามันต่างกับสะเต๊ะเมืองไทยยังไง ร้านนี้เน้นเนื้อเทียมเยอะมาก และบางตัวก็ไม่อร่อย ออกแป้งๆน่ะค่ะ เลยไม่ประทับใจ รสชาติซอสก็ไม่ถูกปากเราด้วย เราคงติดน้ำจิ้มสะเต๊ะบ้านเรามากกว่า



นอกจากนี้เราก็สั่งอาหารอีกสองอย่าง อันหนึ่งหมด อีกอันคนครัวลืมทำ พนักงานไม่ได้ลืมจดนะคะ เพราะมีรายการมาแปะไว้ที่โต๊ะ แต่ตามแล้วตามอีก ก็ยังไม่เห็นเงา สุดท้ายเลยตัดสินใจยกเลิก

ที่ร้านคนวุ่นวายและเสียงดังตามประสาคนจีนแท้เลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าสาขาออร์ชาร์ดจะดีกว่านี้ไหม แต่สาขานี้เราคงไม่มาอีก



              

[ญี่ปุ่น] ร้านของกินอื่นๆในฮอกไกโด และของฝาก


1. ร้านฟาสต์ฟู้ด ดูข้อมูลและรูปในโพสต์ https://goo.gl/rWwywc

- สนามบินนิวจิโตเสะ : มีร้าน Mos Burger อยู่ที่อาคารในประเทศชั้น 1 กับ Freshness Burger (อาคารในประเทศชั้น 3) เราหาข้อมูลไว้เพราะรู้ว่าลงจากเครื่องบินต้องหิวซ่ก เลยไปหาของกินกันตายก่อนเข้าเมือง

- ซัปโปโระ : Mos Burger ที่ห้าง Esta และ Subway ที่ทางเดินใต้ดินระหว่างสถานี Sapporo กับ Odori

- อาซาฮิคาวะ : Mos Burger ชั้น 1 ห้าง Aeon

2. ร้านบุฟเฟ่ต์ผัก


มีคนแนะนำไว้ในเว็บ HappyCow เราลองเดินไปเมียงมองที่ร้าน SaiJiKi ใน Stellar Place สถานีซัปโปโระ เป็นบุฟเฟ่ต์ที่ไม่ได้มังสวิรัติทั้งหมด แต่ค่อนข้างเน้นผักและสลัด ก็น่าสนใจดีค่ะ แต่เวลาเราน้อย มื้อนั้นเตรียมไปกินร้านอื่นแล้ว

ในภาพเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์บางส่วนของร้าน SaiJiKi จากเว็บ tabelog

3. ร้านซูชิสายพาน 


ในเว็บ HappyCow แนะนำไว้สองร้าน คือ Toppii ในห้าง Esta สถานี Sapporo กับ Toriton แถว Maruyama Koen เราไม่ได้ไปนะคะ แต่คิดว่าน่าจะคุยให้ปั้นแบบมังสวิรัติได้ไม่ยาก เคยมีคนไปลองมาแล้ว 



ของฝากจากฮอกไกโด


อันนี้แนะนำเพิ่มเติมจากลิ้นคนกินมังสวิรัติค่ะ ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ทั้งหมดนี้ซื้อได้ที่สนามบินนิวจิโตเสะ เราเป็นพวกไม่ค่อยช้อปค่ะ เลยถูกใจสนามบินนี้ มีครบทุกอย่างในที่เดียว

- Hori Pure Jelly เยลลี่ยูบาริเมลอน ของฝากชื่อดังอันดับหนึ่งของฮอกไกโด เราอยากกินมากค่ะ แต่อ่านส่วนผสมแล้ว มีคำว่า gelling agent ซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร เลยไม่กล้าเสี่ยงซื้อกลับมา ไม่แน่ใจว่าเป็นเจลาติน ซึ่งกินไม่ได้ หรือ agar-agar (Kanten) ซึ่งกินได้

- ออมเล็ตเค้กของ Snaffles ไปที่ร้านเค้ามีให้ชิมพอดี เรารู้สึกคาวไข่ขั้นรุนแรง ลาก่อน

- ชีสเค้ก LeTAO อันนี้อร่อยจริงค่ะ ซื้อกินที่ร้านในห้างไดมารุที่ซัปโปโระ จากนั้นยอมซื้อที่สนามบินทะนุถนอมกลับบ้านมาด้วยหนึ่งก้อน ค่อยๆละเลียดกินด้วยความเสียดาย

- มันฝรั่งทอดกล่องครีมแดง เห็นคนไทยมากวาดซื้ออย่างกับแจกฟรี เราลองแซมเปิ้ลกล่องหนึ่ง ก็ใช้ได้นะคะแต่ไม่ว้าว เราไม่ค่อยชอบกินของสำเร็จด้วยมั้ง ชอบของทำใหม่มากกว่า

- Royce ชอคโกแลตสดอร่อยดีค่ะ แต่กินได้สองชิ้นก็ไม่ไหวละ หวานเกิน กล่องเดียวไล่แจกทั้งบ้านยังไม่หมดเลย มันฝรั่งเคลือบชอคโกแลต มีรสเค็มมาตัดบ้าง ชะตากรรมดีกว่าชอคโกแลตสดนิดหน่อย


[ญี่ปุ่น] อาซาฮิคาวะ ฟุราโนะ และ บิเอ


เป้าหมายของเราในการไปฮอกไกโดคราวนี้คือไปเที่ยวทุ่งดอกไม้ที่ฟุราโนะ และชมธรรมชาติที่บิเอ แต่เราเลือกนอนที่เมืองอาซาฮิคาวะ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเกาะ สาเหตุหนึ่งเพราะกลัวไม่มีของกิน 



อาซาฮิคาวะไม่มีร้านอาหารมังสวิรัติแท้ๆ แต่เราต้องกินข้าวเย็นที่นี่ 3 มื้อ และกลับมามืดด้วย เพราะเช่ารถขับ (เอาให้คุ้ม) เพื่อความสะดวกเรากะพึ่งพาร้านอิตาเลียนแถวสถานี JR Asahikawa เป็นหลัก

1. แต่ปรากฏว่าในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ Aeon Mall ซึ่งติดกับสถานี JR มีซุ้มอาหารจีนตักๆที่หลายเมนูเป็นมังสวิรัติ ขออภัยที่รูปดูน่าเกลียดหน่อยนะคะ คือเรากลับไปมืด คนอื่นตักจนจะเกลี้ยงถาดอยู่แล้ว ในรูปเป็นสลัดกระเจี๊ยบเขียวกับสาหร่าย (กินได้) ผัดบร็อคโคลีแครอทใส่ปลาเฮอร์ริง (กินไม่ได้) เต้าหู้ผัดเห็ด (กินได้) นอกจากนี้ยังมีสลัดถั่วแระมะเขือ กับเต้าหู้ทอดกับเห็ดผัดซอสมิโซะ แต่อย่าให้ลงรูปเลยค่ะ ดูเป็นเศษซากอารยธรรมสิ้นดี แนะนำให้เอาน้ำพริกไปคลุกข้าวเพิ่มรสชาติด้วย เพราะอาหารญี่ปุ่นออกจืดกับเค็ม

เราไม่แน่ใจว่าอาหารที่ซูเปอร์เหมือนกันทุกวันไหม แต่แนะนำให้ลองถามพนักงานดูว่าอะไรกินได้บ้าง มีคนพอพูดอังกฤษได้บ้าง

2. มื้อที่สองเรากินร้านอิตาเลียนที่ห้างอีออนนี่แหละค่ะ น่าจะที่ชั้นสี่ ชื่อร้าน Mia Bocca พนักงานที่ร้านพูดภาษาอังกฤษได้พอควร เข้าใจคอนเซ็ปท์มังสวิรัติ แนะนำอาหารให้เราได้หลายอย่าง แป้งพิซซ่าที่นี่เหนียวนุ่มหอมอร่อยเหมือนขนมปังนาน (nan)

3. มื้อที่สาม ไปกินร้าน Bacca! ใกล้ๆสถานีเหมือนกันค่ะ เดินไปสัก 7-8 นาทีเท่านั้น พิกัดตามนี้ https://goo.gl/0P7cmp พาสต้าที่นี่อร่อยใช้ได้เลยค่ะ มาเป็นกระทะอย่างสวย เจ้าของร้านพูดอังกฤษแทบไม่ได้เลย เมนูก็ญี่ปุ่นล้วน อาศัยภาษาใบ้กับบัตรแนะนำตัวค่ะ https://goo.gl/mrM7ou

อย่างไรก็ตาม ขอเตือนว่าประสบการณ์ของเราคือ พอยื่นบัตรรูปประโยคไปให้ เขาจะบอกเลยว่าที่ร้านไม่มีอะไรกินได้ ขอโทษด้วย เล่นเอาเราเหงื่อตก ต้องขอดูเมนูแล้วพยายามอาศัยความรู้งูๆปลาๆแกะเอาจนรู้ว่ามีหลายเมนูกินได้ แต่เขาคิดไม่ออก นึกไม่ถึง ง่ายๆก็อย่างเช่น สลัด (แค่เอาเบคอนออก) แต่พนักงานแบบไม่คิดจะขายของเลยว่างั้นเหอะ ดังนั้นจงพยายามตื๊อและถามไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งเดินออกค่ะ สงสารพยาธิในท้องเข้าไว้ ขอแนะนำว่าพิซซ่าที่น่าจะปลอดภัยคือ มาร์การิต้า (ซอสมะเขือเทศกับมอสซาเรลลาและใบเบซิล) ส่วนพาสต้าก็พวก อะราเบียต้า, พริมาเวร่า, นาโปลิตัน ไม่ใส่เนื้อ (niku-nuki) 




ฟุราโนะ และบิเอ

ทั้งสองแห่งเป็นเมืองค่อนข้างชนบท ขนาดอาซาฮิคาวะยังไม่มีร้านอาหารเจ ที่นี่ยิ่งไม่ต้องหวัง

ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่อดค่ะ มีอะไรกินได้หลายอย่าง ฮอกไกโดเป็นเกาะการเกษตร พืชผักสดกรอบหวานอร่อย อาหารเที่ยงหลักของเราจึงเป็นผักผลไม้นี่แหละ ตามตลาดและสถานที่ท่องเที่ยวจะมีซุ้มขายของกินมากมาย ซื้อกินไปเรื่อยๆรับรองอิ่มแน่

::อาหารแนะนำ::

- ข้าวโพด ทั้งข้าวโพดดิบ (สีขาว) และข้าวโพดต้ม (สีเหลือง) อร่อยสุดฤทธิ์สุดเดชทั้งคู่ค่ะ โดยเฉพาะข้าวโพดดิบ อร่อยแบบเรางงไปเลย ตอนนี้ยังอยากกลับไปกินอีก

- ยูบาริเมลอน หรือแคนตาลูป หวานเจี๊ยบชื่นใจ จะกินเปล่าๆหรือโปะซอฟท์ครีมก็ได้

- มันฝรั่งอบเนย ฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องมันฝรั่ง อบร้อนๆเนยละลายเยิ้มๆ ลูกนึงแป๊บเดียวหมด

- โคโระเกะมันฝรั่ง โคโระเกะฟักทอง

- โมจิมันฝรั่ง กับแอสพารากัสต้ม แปลกดี เราไม่ได้กินนะคะ ใครเคยกิน รสชาติเป็นไงช่วยบอกด้วย

- ผลิตภัณฑ์นมต่างๆ ของมีชื่อของฮอกไกโดเค้าค่ะ ทั้งนมสด (ไม่คาว!) ซอฟท์ครีม โยเกิร์ต ฯลฯ

ถ้าใครติดข้าวก็ซื้อข้าวปั้นร้านสะดวกซื้อพกติดไปด้วยก็ได้ ข้อมูลเพิ่มที่ https://goo.gl/TfMsru และ https://goo.gl/3Q2Tqc

นอกจากนี้ ที่บิเอ ยังมีร้านมิชลิน 1 ดาว ชื่อ Restaurant Asperges ซึ่งเราส่องเมนูดูแล้ว น่าจะกินได้แต่สลัด แต่ที่ร้านมีช่วงเวลาน้ำชา และเพื่อนที่เคยไปกินมาบอกว่าขนมปังและขนมต่างๆอร่อยมาก หาพิกัดใน googlemaps เอานะคะ น่าเสียดายที่วันที่เราไปเป็นวันหยุดของร้านพอดี เลยไม่ได้ลองชิม



[ญี่ปุ่น] รีวิว 3 ร้านในซัปโปโระที่เสิร์ฟอาหารมังสวิรัติ + ออนเซ็น

Iki Laboratory

รายละเอียด http://www.happycow.net/reviews/iki-laboratory-sapporo-33663
ประเภทอาหาร : ออร์แกนิค มีเมนูมังสวิรัติ สั่งแบบวีแกนได้ 
สถานี : Nishi 4 Chome ทางออก 1
เว็บไซต์ : http://ikilab.com (ภาษาญี่ปุ่น)

ไม่ใช่ร้านมังสวิรัติล้วนนะคะ แต่ 1/3 ในเมนูเป็นอาหารมังสวิรัติ มีสัญลักษณ์ระบุไว้เรียบร้อย และมีเมนูภาษาอังกฤษด้วยค่ะ

กดสปอยดูภาพเมนู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ร้านนี้วันธรรมดาเปิดขายตามเมนูเฉพาะช่วงเย็น ส่วนช่วงเที่ยงจะมีแต่อาหารกล่อง ซึ่งเราไม่ได้ลอง เลยไม่รู้ว่ามีมังสวิรัติหรือเปล่า ส่วนวันเสาร์เปิดทั้งเที่ยงและเย็น ร้านปิดวันอาทิตย์ค่ะ

สถานที่ตั้งไม่ไกลจากสถานีซัปโปโระและสถานี Nishi 4 Chome แต่ตัวร้านอาจจะหายากหน่อยเพราะอยู่ในตึกเล็กๆอีกที คอยสังเกตป้ายเอาค่ะ ในตึกเป็นทางเดินเหมือนตรอกเล็กๆ ถ้าจำไม่ผิดเป็นร้านที่สอง เราไปวันศุกร์เห็นมีป้ายจองไว้หลายโต๊ะแล้ว ยังดีว่าไปเร็ว ไม่งั้นอาจไม่มีที่นั่ง ร้านนี้น่าจะเด่นเรื่องสาเกนะคะ เห็นมีถังเรียงเต็มพรืดผนังข้างหนึ่งเลย

พนักงานในร้านบริการดีสุดๆ ถึงพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ก็พยายามแนะนำอาหารอย่างเต็มที่

สลัดเรียกน้ำย่อย ฟรี ผักฮอกไกโดสดกรอบ มากับเต้าหู้ปรุงรสหอมๆเย็นๆ ชื่นใจ


ไก่เจทอด โอเคนะคะ แต่คิดว่าบ้านเราทำรสถึงใจกว่า


เต้าหู้มิโซะคาสึ เค็มมาก รสสัมผัสคล้ายครีมชีส ปรุงรสด้วยสาเก


แล้วก็ราเมง เรียบง่ายแต่อร่อย เส้นเหนียวนุ่มประทับใจ



Itadakizen

รายละเอียด http://www.happycow.net/reviews/itadakizen-sapporo-44157
ประเภทอาหาร : ออร์แกนิค, วีแกน, ญี่ปุ่น, แมคโครไบโอติค
สถานี : MaruyamaKoen หรือ Nishi 18 Chome
เว็บไซต์ : http://www.itadakizen-uk.com/ (ของสาขาที่ลอนดอน)

แถวสถานี Maruyama Koen มีร้านมังสวิรัติอยู่หลายร้าน นี่เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ทางไปมึนพอสมควร ต้องดูแผนที่ดีๆ หรือพึ่ง GPS ร้านปิดวันจันทร์

เจ้าของร้านน่ารักมาก พูดภาษาอังกฤษคล่อง อธิบายอาหารได้ละเอียด ชอบเมืองไทย พูดสวัสดีค่ะกับเราด้วย ที่สำคัญ เราไปตอนเที่ยงแต่อยากกินชุดซูชิ ซึ่งเป็นอาหารของเมนูตอนเย็น เค้าก็ยินดีทำให้ค่ะ แต่บอกว่าต้องรอนานหน่อย (45 นาที) คงเห็นเรามาไกล (และทำหน้าตาอดอยาก+ตะกละ)

ร้านนี้เรามีคนไปด้วย เลยสั่งไป 3 ชุด คือ ชุดซูชิที่บอกไป ชุดข้าวยำ และชุดมาตรฐาน สองชุดหลังอาหารเหมือนกันค่ะ เพียงแต่ชุดมาตรฐานเป็นข้าวธรรมดาหนึ่งถ้วยเล็ก ส่วนชุดข้าวยำมาเป็นชามหินขนาดกลาง


ถั่วต้มปรุงรสในถ้วยกลมตรงกลางอร่อยผิดคาด!

ทั้งสองชุดมีซุปด้วย และของหวานเป็นไอศครีมโยเกิร์ตน้ำเต้าหู้กับขนมปังกรอบและถั่วพีแคน ในภาพข้างล่างนี้


ชุดซูชิราคาค่อนข้างแพง แต่มีของให้กินหลากหลายดี รสชาติยังไม่ถึงใจเท่าไหร่ อร่อยแบบสุขภาพค่ะ


Aoi Sora Organic Cafe

รายละเอียด http://www.happycow.net/reviews/aoi-sora-organic-cafe-sapporo-13094
ประเภทอาหาร : ออร์แกนิค, วีแกน, ญี่ปุ่น, แมคโครไบโอติค
สถานี : MaruyamaKoen หรือ Nishi 18 Chome
เว็บไซต์ : ไม่มี

อยู่ไม่ไกลจากร้านที่แล้ว ที่คาเฟ่ที่ขายไอศครีมน้ำเต้าหู้กับเค้กข้าวเจ้าเป็นหลัก ขนมหลายชนิดเป็นกลูเตนฟรีด้วย น่าเสียดายที่ท้องเราเต็มแล้วเลยไม่ได้ลองของหวาน

เจ้าของร้านและพนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษด้วย ทุกอย่างรัวภาษาญี่ปุ่นใส่อย่างเดียว เราเลยต้องพูดอังกฤษเป็นคำๆบวกกับภาษาญี่ปุ่นงูๆปลาๆของเรา สรุปสั่งมาได้สองชุด คือชุดมาตรฐานเล็ก (รูปเล็ก) กับชุดข้าวสลัดอโวคาโด (รูปใหญ่) ส่วนตัวชอบข้าวสลัดอโวคาโดมากว่าค่ะ (ข้างล่างผักมีข้าวอยู่) ผักที่นี่อร่อยจริงๆ



แถมท้ายด้วยออนเซ็นที่เราไปพักมาค่ะ ชื่อ jozankei daiichi hotel suizantei นั่งชัทเทิลบัสฟรีของโรงแรม หรือรถบัสจากสถานี JR ซัปโปโระ ไปประมาณ 50 นาที

ก่อนเดินทาง 2 เดือน เราเขียนอีเมล์ไปถามโรงแรมค่ะว่าทำอาหารเจให้เราได้ไหม แบบไม่มีเนื้อสัตว์ ไม่มีปลา ไม่มีน้ำซุปปลา เพราะหลายแห่งบริการหาอาหารไม่มีเนื้อสัตว์และไม่มีปลาได้ แต่ไม่ใช้น้ำซุปปลาไม่ได้ ถ้าซีเรียสเรื่องนี้ต้องเน้นย้ำค่ะ

ทางโรงแรมบอกว่าทำได้ วันที่ไปเราก็ใจตุ๊มๆต่อมๆค่ะว่าจะมีอะไรกินไหม ช่วงเช้าเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนเย็นนี่สิ แถวนั้นไปไหนก็ลำบากซะด้วย

ผลปรากฏว่าหายห่วง พนักงานโรงแรมบริการดีเว่อร์ๆ ดูแลบริการทุกอย่าง โรงแรมก็สวย ออนเซ็นสะดวกสบาย บรรยากาศดีมาก แนะนำค่ะ


อาหารที่เราได้กินในเย็นนั้นมาเป็นคอร์ส เริ่มจากสาเก โซบะเย็นแกล้มเกลือปรุงรส สลัดสุดยอดเหมือนเคย (ทริปนี้กินสลัดอร่อยทุกแห่ง) เต้าหู้ที่เราเรียกไม่ถูกว่าชื่ออะไร มันจะเหนียวๆหนึบๆหน่อย


ตามด้วยมันจูข้าวเหนียวใส่ถั่วธัญพืช ตัวนี้ชนะเลิศสำหรับเรา ถึงขั้นเรียกพนักงานมาถามเลยนะคะว่ามันคืออะไร ใส่อะไรบ้าง พนักงานที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษพยายามจนเมื่อย แต่สุดท้ายเราก็ไม่รู้อะไรมากกว่าที่บอกไป ^^;


ผักและเห็ดย่าง แต่ละชนิดทาน้ำมันและซอสก่อนย่างต่างกัน รู้สึกได้เลยว่าเชฟใส่ใจ


จากนั้นเป็นนาเบะผัก เห็ด และเต้าหู้อ่อน


ปิดท้ายด้วยคุณเชฟออกมาตัดโรลเค้กสอดไส้ผลไม้สักอย่าง ตอนนั้นถามมาแต่ลืมไปแล้ว แต่หวานลื่นอร่อยดีค่ะ




งวดนี้ไปเที่ยวแป๊บเดียวเลยได้ร้านมาน้อย ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บ happycow ค่ะ
http://www.happycow.net/asia/japan/sapporo/